YAMAHA FG5 ACOUSTIC GUITAR
- จากสุนทรียศาสตร์ในยุค 60 และด้วยการออกแบบที่ทันสมัย กีตาร์ของYamaha ได้รับการพัฒนามายาวนานกว่า 50 ปี
- ตัวกีตาร์แบบดั้งเดิมรุ่น FG ของ Yamaha จะให้เสียงโทนต่ำที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับการเล่นแบบตีคอร์ดและแบบฟิงเกอร์สไตล์
- โครงสร้างภายในแบบฝานให้บางลงของรุ่น FG จะให้โทนเสียงที่อบอุ่น ทรงพลัง โดยมีฮาร์โมนิคที่ลึกต่ำและแน่น
- กระบวนการ Acoustic Resonance Enhancement (A.R.E.) นั้นเป็นการช่วยให้เสียงคงอยู่และช่วยรักษาไม้ที่มีอายุมากแล้ว
- โครงสร้างแบบโซลิดทั้งหมดประกอบด้วยไม้หน้าจากไม้ซิทก้าสปรู๊ซ ไม้หลังและไม้ข้างจากมะฮอกกานี
- ฟิงเกอร์บอร์ด สะพานสาย สลักยึดสะพานสาย และหมุดยึดสายสะพายจากไม้อีโบนี่
- ตัวรองสายกีต้าร์จากกระดูก
- ผลิตในประเทศญี่ปุ่น
- มาพร้อมกระเป๋ากีตาร์แบบ Hardshell
FG5 |
|||
---|---|---|---|
Body Shape | |||
Scale Length | 634mm (25”) | ||
Body Length | 505mm (19 7/8″) | ||
Total Length | 1029mm (40 1/2″) | ||
Body Width | 412mm (16 1/4″) | ||
Body Depth | 100-118mm (3 15/16”- 4 5/8”) | ||
Nut Width | 44mm (1 3/4”) | ||
String Spacing * | 11.0mm | ||
Top Material | Solid Sitka Spruce | ||
Back Material | Solid Mahogany | ||
Side Material | Solid Mahogany | ||
Neck Material | African Mahogany | ||
Fingerboard Material | Ebony | ||
Fingerboard Radius | R400mm (15 3/4″) | ||
Bridge Material | Ebony | ||
Nut Material | Bone | ||
Saddle Material | Bone | ||
Bridge Pins | Ebony | ||
Tuners | Open Gear Chrome(Y1D) | ||
Body Binding | Black + White | ||
Soundhole Inlay | Black + White | ||
Pickguard | Wooden type | ||
Body Finish | Semi-Gloss | ||
Neck Finish | Matt | ||
Electronics | None | ||
Controls | None | ||
Connections | None | ||
Strings | Elixir NANOWEB 80/20 Bronze Light | ||
Accessories | Hex Wrench | ||
Case | Hardshell Case |
หัวกีตาร์รูปทรง V Shape แบบดั้งเดิม
กีตาร์รุ่นนี้ยังคงรักษารูปทรงหัวกีตาร์ FG แบบดั้งเดิมไว้และตกแต่งด้วยโลโก้ “Tuning Fork” อันโด่งดัง เหล็กดามคอกีตาร์แบบดั้งเดิมตกแต่งด้วย “Since 1966” เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดตัว FG รุ่นแรก
Solid Sitka Spruce Top
ไม้หน้าแบบโซลิดทำจากซิทก้าสปรู๊ซมีต้นกำเนิดมาจากประเทศแคนาดาและอลาสก้า ให้การตอบสนองย่านเสียงกลางและเสียงต่ำได้ดี ให้เสียงที่แน่นและพุ่ง เหมาะกับการเล่นแบบตีคอร์ดหรือการเล่นกีตาร์แนวฟิงเกอร์สไตล์ (fingerstyle)
Solid Rosewood Back & Sides
ไม้มะฮอกกานีมีความไวในการตอบสนองต่อเสียงช้ากว่าไม้แบบอื่นๆ ที่ใช้ในการทำกีต้าร์ ทำให้ได้เสียงโทนอุ่นและดิบ มีย่านเสียงกลางแข็งแรง
ตัวรองสายกีต้าร์จากกระดูก
เครื่องดนตรีระดับ 5 Tier ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นจะต้องประกอบด้วยตัวรองสายกีต้าร์ที่ทำจากกระดูก เนื่องจากกระดูกเป็นวัสดุที่แข็งกว่ายูเรีย จึงให้ประสิทธิภาพในการถ่ายทอดพลังงานจากสายไปยังคอและตัวกีตาร์ได้มากกว่า
ผลลัพธ์ที่ได้คือเสียงที่ดังและคมชัดขึ้น
การฝานโครงสร้างภายในให้บางลง (Scalloped Bracing)
ในการกำหนดเสียงของ FG Red Label ความตั้งใจของเราคือการนำเสนอโทนเสียงอบอุ่นที่เข้ากับดนตรีโฟร์คสมัยใหม่และนักนักร้อง-นักแต่งเพลงอย่างลงตัว
ด้วยการวัดสัดส่วนและการทดสอบอย่างละเอียดและทำการปรับเปลี่ยนหลายครั้งเพื่อปรับปรุงการตอบสนองที่ย่านเสียงต่ำให้ดีขึ้นโดยไม่ทำให้ความทนทานลดลง โดยเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อเพื่อความโดดเด่นให้กับลักษณะตามธรรมชาติของไม้ผลิตกีตาร์ และเหมาะสมกับโครงสร้างของตัวกีตาร์แต่ละแบบ
กระบวนการ Acoustic Resonance Enhancement
Acoustic Resonance Enhancement (A.R.E.) เป็นกระบวนการเฉพาะของ Yamaha ที่ใช้ความร้อน ความชื้น และแรงดันบรรยากาศในการเร่งอายุของไม้ กระบวนการ A.R.E. จะช่วยทำให้เครื่องดนตรีมีโทนเสียงที่แน่นมีคุณภาพแบบวินเทจ เสียงที่ได้จะคล้ายกับเครื่องดนตรีที่ผ่านการเล่นมาแล้วหลายปี
ปิ๊กอัพ Atmosfeel 3 ทาง และระบบปรีแอมป์
ปิ๊กอัพ Atmosfeel 3 ทาง และระบบปรีแอมป์นี้ ใช้เพียโซเซ็นเซอร์ที่อยู่ในสะพานสายในการจับเสียงย่านความถี่ต่ำ ใช้ไมโครโฟนสำหรับย่านเสียงต่ำและเสียงกลาง และใช้แผ่นสัญญาณสังเคราะห์แผ่นบางสำหรับความถี่สูงซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของเราที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด ผลที่ได้คือเสียงที่เป็นธรรมชาติเต็มรูปแบบพร้อมการควบคุมที่ง่ายทำให้สามารถเล่นเพลงได้เกือบทุกแนว
ควบคุมได้ง่ายและเป็นธรรมชาติเพื่อทุกสไตล์การเล่น
การควบคุมปรีแอมป์ด้วย Atmosfeel จะทำให้สามารถผสานเสียงของไมโครโฟนเข้ากับเสียงปิ๊กอัพก่อนมิกซ์เสียงได้อย่างลงตัว เสียงไมโครโฟนจะช่วยส่งให้ผู้เล่นโซโล่และผู้เล่นทางคอร์ดมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ในขณะที่ Lower Blend จะเหมาะกับผู้เล่นแบบฟิงเกอร์สไตล์และมือกีตาร์ที่ต้องการให้การเล่นแบบฟูลแบนด์ง่ายขึ้น
ฝาครอบวอลลุ่มควบคุมจุดสูงสุด (peaking) ของ EQ ความถี่กลางจะเพิ่มขึ้นเมื่อเพิ่มและลดความถี่ ทำให้ความถี่ต่ำซึ่งอาจเป็นปัญหาบนเวทีสามารถหมดไปได้