บทความ, ประวัติ, เครื่องดนตรี
-Clarinet- คลาริเนท
ก.พ.
“Clarinet” (คลาริเนท)
คลาริเนท กำเนิดในยุคปลายของบาร็อค เรียกว่า ปี่ chalumeau (ชาลุมมู) เพื่อเอามาแทนทรัมเปตในการเล่นโน้ตยากๆ เนื่องจากยุคนั้นทรัมเปตยังไม่มีวาล์วทำให้เล่นโน้ตได้ไม่หวือหวานัก เป็นแค่ท่อเปล่าๆ
ต่อมาพัฒนาด้วยการเติมปุ่มคีย์เข้าไปจากการพัฒนาในเยอรมันด้วยระบบ Böhm เหมือนกับฟลูต และมีระบบอื่นๆด้วย
เช่น Oehler, Müller และ Albert ส่วน Böhm ภายหลังไปเป็นที่นิยมในฝรั่งเศส แล้วถึงกระจายไปทั่วโลก
ซึ่งสำนักคลาริเนทที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ เยอรมัน กับ ฝรั่งเศส เหมือนกับโอโบ
คลาริเนทจะต่างกับโอโบตรงที่เป็น “ลิ้นเดี่ยว” ขณะที่โอโบเป็น “ลิ้นคู่” ประกบกัน คลาริเนทต้องใช้ไม้ไผ่ลิ้นเดี่ยวนี้ประกบกับเมาท์พีซแล้วรัด เพื่อให้เกิดการสั่นของเสียง เสียงจะกังวาลในตัวเมาท์พีซแล้วค่อยส่งไปที่ตัวเครื่อง
เสียงของคลาริเนทจะมีช่วงเสียงที่กว้างมาก จากเสียงต่ำจะฟังดูอบอุ่นแบบเหมือนเครื่องมีแรงสั่น ไล่ได้ไปจนถึงเสียงสูงพอๆกับฟลูต เสียงสูงมีความเพราะแบบใสกิ๊งเหมือนแก้ว แต่ถ้าเสียงสูงมากๆจะปี๊ดเหมือนลูกห่านร้อง 
ส่วนใหญ่จึงมักใช้คลาริเนทเล่นในช่วงเสียงกลางๆไปถึงสูงมากกว่า
คลาริเนทเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ยุคคลาสสิคเป็นต้นมา โมสาร์ทมักใส่คลาริเนทไว้ในเพลงด้วย ต่อมาก็เบโธเฟน และใช้ยาวจนมาถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้น คลาริเนทยังได้รับความนิยมไปสู่ดนตรีแนวอื่นๆด้วย เช่น แจ๊ส หรือ ดนตรีละติน ดนตรีพื้นบ้านอื่นๆทั่วโลก
ในไทยเราเองนิยมกันตั้งแต่วงโยฯตามโรงเรียนไปจนถึง ลูกทุ่ง ลูกกรุง แตรวง หมอลำ
คลาริเนทเป็นตระกูลใหญ่ เพราะมีหลายประเภท ถ้าไล่ตั้งแต่สูงสุดไปต่ำสุดคือ Eb, D, C, Bb, A, basset clarinet, basset horn, alto clarinet, bass clarinet …….ที่นิยมมากที่สุดคือ Bb ส่วนที่เหลือเรียกว่า ใช้ในบางโอกาสมากกว่า
นักคลาริเนทที่มีชื่อเสียง ส่วนมากจะเป็นตัวหลักให้กับวงออร์เคสตร้า เช่น Karl Leister (Berlin), Stanley Drucker (New York), Martin Fröst (Stockholm)
ถ้าแนวโซโลอิสต์เดี่ยวก็ Richard Stoltzman, Nicolas Baldeyrou, Sabine Meyer
แนวการศึกษาก็ Charles Neidich, Eddy Vanoosthuyse
หรือถ้าแนวแจ๊สก็เช่น ในยุคสวิงโดย Benny Goodman, Woody Herman
ละตินก็เช่น Paquito D’Riveira จากคิวบา
หรือพวกโฟล์คซอง Hüsnü Şenlendirici จากตุรกี (ตุรกีนิยมคลาริเนทมากๆในเพลงพื้นบ้าน)
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ เปิดใจฟัง https://www.facebook.com/Perdjaifung/photos/a.107323251773099/136207705551320/
